ผ้าไหม (Silk)

By

ผ้าไหม (Silk)

ประวัติของผ้าไหม

ผ้าไหม มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีนและอินเดีย จากประวัติพบว่ามีการทอผ้ามาตั้งแต่ 2 พันกว่าปีก่อนคริสตกาลแล้ว โดยพ่อค้าชาวจีนได้เผยแพร่ผ้าไหมสู่พื้นที่แถบอื่นในทวีปเอเชีย และคาดว่าน่าจะเข้ามาในประเทศไทยในเวลาไล่เลี่ยกัน

การทอผ้าไหมไทยก็ได้รับอิทธิพลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีหลักฐานเชื่อว่าคนไทยในอดีต นิยมถักทอกันเองในครัวเรือน เพื่อใช้ในงานพิธีสำคัญๆ เช่น งานแต่ง งานบวช งานบุญ งานอื่นๆ

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ทรงส่งเสริมให้มีการใช้ผ้าไหมมากขึ้น และทรงส่งเสริมให้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอีกด้วย และยังได้รับการสนับสนุนจากประเทศญี่ปุ่นอีก แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังไม่เข้ากับวัฒนธรรมและความคุ้นชินในชีวิตประจำวัน การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมจึงลดความนิยมในขณะนั้น

หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ้าไหมในไทยได้กลับมารับความนิยมอีกครั้ง ด้วยฝีมือของฝรั่งที่ชื่อว่า จิม ทอมป์สัน ที่เป็นที่รู้จักอย่างดีของคนไทย คุณจิม ทอมป์สันนั้นมีความสนใจในงานศิลปะของไทยอย่างมาก โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั่นเอง พอได้เข้าไปในท้องถิ่น ก็พบว่าลายผ้าไหมของท้องถิ่นนั้น สวยงามมาก จึงอดไม่ได้ที่จะซื้อกลับมาเพื่อแสดง และรวมถึงขายให้กับคนที่ถูกใจลายผ้าไหมไทยเช่นกัน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานผ้าไหมไทย ที่โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยลายผ้าที่สวยงาม ปราณีต และไม่เหมือนใครนั่นเอง

คุณจิม ทอมป์สัน ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ชาวบ้าน ทอผ้าไหม และสร้างเป็นรายได้หลัก รวมถึงช่วยในเรื่องการปรับปรุงลวดลาย การตลาด เพื่อให้ผ้าไหมไทยนั้นเป็นที่ยอมรับและขายได้ในตลาดโลก

ประเภทของผ้าไหมไทย

ผ้าไหมไทยนั้น มีการรับรองคุณภาพโดยแบ่งเป็น 4 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ ผ้าไหมนกยูงสีทอง (Royal Thai Silk) นกยูงสีเงิน (Classic Thai Silk), นกยูงสีน้ำเงิน (Thai Silk), และนกยูงสีเขียว (Thai Silk Blend) ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะแตกต่างกันในเรื่องของกระบวนการผลิต เช่น บางชนิดต้องทอมือ บางชนิดใช้เครื่อง หรือบางชนิดใช้สีธรรมชาติเท่านั้น เป็นต้น

คุณสมบัติของผ้าไหม

ผ้าไหมนั้น ถือว่าเป็นผ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงมาก เพราะว่าด้วยรูปลักษณ์ที่ดูหรูหรา เนื้อมันวาว ใส่แล้วดูมีราคา ดูแพง และแน่นอน ราคาก็ต้องแพงตามไปด้วย

การนำผ้าไหมมาใช้งาน

เราจึงเห็นผู้คนทั่วไปนิยมใส่ในงานสำคัญๆ เช่น งานแต่ง งานบวช หรือแม้แต่งานที่ราชการจัดขึ้น ก็เห็นมีคนใส่ชุดผ้าไหมมากมายเต็มไปหมด นอกจากนี้เรายังเห็นผู้คนหลายๆ องค์กร นิยมนำผ้าไหมมาตัดเป็นชุดยูนิฟอร์มด้วย รวมถึงชุดพนักงานร้านสปา ชุดยูนิฟอร์มพนักงานร้านอาหาร หรือชุดยูนิฟอร์มพนักงานคลินิคเสริมความงาม ที่ต้องการให้แบรนด์หรือร้านของตัวเองดูดีมีราคาอีกด้วย

การตัดชุดยูนิฟอร์มผ้าไหม

การทำชุดยูนิฟอร์มด้วยผ้าไหมนั้น ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายอย่างหนึ่ง เพราะลักษณะของผ้าไหม ไม่เหมือนผ้าอื่นๆ ผ้าไหมทนความร้อนได้ไม่นาน รวมถึงการตัดเย็บ ต้องใช้ฝีมือและความชำนาญมากๆ ซึ่งท่านสามารถหาได้จากโรงงานรับตัดชุดยูนิฟอร์มที่ได้รับการยอมรับและมีประสบการณ์ รวมถึงมีความเข้าใจในแบบที่หลากหลายอีกด้วย

 

ดูแบบชุดยูนิฟอร์ม

ขั้นตอนการตัดชุดยูนิฟอร์ม

สั่งตัดชุดยูนิฟอร์ม

อ่านบทความอื่นๆ

We also recommend

No Comments

Leave a Reply

error: Content is protected !!